ภาคกลาง

                       ภาคกลาง

บ้านเรือนไทยภาคกลาง
  บ้านเรือนไทยภาคกลาง นั้น เป็นหนึ่งในสี่รูปแบบของเรือนไทยทั้งสี่ภาคที่ได้รับความนิยมสร้างขึ้นเพื่ออยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยโบราณ  เรือนไทยภาคกลางนั้นจัดว่าเป็นเรือนไทยที่ได้รับความนิยมมากกว่าเรือนไทย ภาคอืน ๆ
  เรือนไทยในภาคกลาง  ถือเป็นแบบฉบับของเรือนไทยเดิมที่เราคุ้นเคยกันดี ในรูปแบบ เรือนฝาปะกนถือเป็นเรือนไทยแท้ เรือนไทยฝาปะกน คือเรือนที่ฝาทำจากไม้สัก มีไม้ลูกตั้งและลูกนอน และมีแผ่นไม้บางเข้าลิ้นประกบกันสนิท หน้าจั่วก็ทำด้วยวิธีเดียวกัน เราจะพบเห็นเรือนไทยภาคกลาง รูปแบบต่าง ๆ อาทิ  เรือนเดี่ยว เรือนหมู่ เรือนหมู่คหบดี และจากการดำเนินชีวิตของคนไทยในอดีตผูกพันกับแม่น้ำลำคลอง อันเป็นทางคมนาคมที่สะดวกในเขตภาคกลางจึงเกิดเรือนพักอาศัยเช่นเรือน แพ

เรือนไทยในภาคกลางอาจจำแนกออกได้ดังนี้

1.เรือนเดี่ยว
   เป็นเรือนสำหรับครอบครัวเดี่ยว สามีภรรยาและลูกที่ยังไม่ออกเรือน   สร้างขึ้นโดยมีประโยชน์ใช้สอยที่เพียงพอกับครอบครัวเล็ก ๆ อาจเป็นเรือนเครื่องผูกเรือนเครื่องสับ หรือผสมผสานกันก็เป็นได้แล้วแต่ฐานะทางเศรษฐกิจ จะเอื้ออำนวย
เรือนเดี่ยว
ประกอบด้วย เรือนนอน 1 หลัง เรือนครัว   1 หลัง ระเบียงยาว ตลอดเป็นตัวเชื่อมระหว่างห้องนอนกับชาน
2.เรือนหมู่        
 เรือนหมู่ คือ เรือนหลายหลังซึ่งปลูกอยู่ในที่เดียวกันเมื่อลูกเต้าออกเหย้าออกเรือนไปแล้ว เรือนเหล่านี้หลังหนึ่งเป็นเรือนเดิมซึ่งพ่อแม่อยู่ส่วนที่เหลือเป็นเรือน หลังย่อมกว่า เป็นที่อยู่ของบุตรสาวซึ่งออกเรือนไป แล้วจำนวนหลัง แล้วแต่จำนวนบุตรสาว เนื่องจากสมัยก่อนลูกชายแต่งงานส่วนใหญ่จะไปอยู่บ้านผู้หญิง ส่วนลูกผู้หญิงจะนำเขยเข้าบ้าน

เรือนหมู่
3.เรือนหมู่คหบดี
 เรือนหมู่คหบดีโบราณ เป็นเรือนสำหรับผู้มีอันจะกินดังคำกล่าวว่า " ถ้าบ้านใด มีแม่เรือน 2 หลัง หอนั่ง ครัวไฟ  หัวกระไดต้นโมกเป็นบ้านเรือนชั้นผู้ดีมีอันจะกิน " ลักษณะการจัดเรือนหมู่คหบดีของโบราณเป็นเรือนขนาดใหญ่มีเรือนคู่และเรือนหลังเล็กหลังน้อยรวมเข้าด้วยกัน แต่ละหลังใช้ประโยชน์ต่างหน้าที่กันออกไป
ประกอบด้วย เรือนนอน  เรือนลูก เรือนขวาง  เรือนครัว หอนก และชาน

เรือนหมู่คหบดี
4.เรือนแพ      
  สายน้ำกับชีวิตแบบไทย ๆอยู่คู่กันมาโดยตลอด ส่วนใหญ่คนไทยจะอาศัยอยู่ริมน้ำเพราะเป็นเส้นทางการ คมนาคมที่สะดวกและเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชิวิตประจำวัน   และงานเกษตรกรรมในบางพื้นที่ที่บริเวณชายน้ำเป็นที่ลุ่ม มีน้ำท่วมถึงเป็นเวลานานในช่วงหน้าน้ำ การสร้างบ้านบริเวณชายฝั่งต้องยกพื้นชั้นบนสูงมาก จึงจะพ้นน้ำซึ่งไม่สะดวกในหน้าแล้งทำให้เกิดการสร้างเรือนในลักษณะ " เรือนแพ "  ที่สามารถปรับระดับของตนเองขึ้นลงได้ตามระดับน้ำในแม่น้ำลำคลอง


เรือนแพ
                       อาหาร
อาหารพื้นบ้านภาคกลาง 
  เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ของภาคกลางเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำลำคลอง หนองบึงมากมาย 
จึงเป็นแหล่งอาหารทั้งพืชผักและสัตว์น้ำนานาชนิด พื้นที่บางส่วนติดชายฝั่งทะเลทำให้วัตถุดิบ 
ในการประกอบอาหารหลากหลายอุดมสมบูรณ์
  อาหารภาคกลางมีความหลากหลายทั้งในการปรุง รสชาติ และการตกแต่งให้น่ารับประทาน 
สืบเนื่องจากการรับและปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมจากภายนอก เช่น จีน อินเดีย ชาวตะวันตก 
อีกทั้งอาหารภาคกลางบางส่วนได้รับอิทธิพลมาจากอาหารของราชสำนักอีกด้วย 
 
น้ำพริกกะปิกับปลาทู
สำรับอาหารภาคกลางมักมีน้ำพริกและัผัีกจิ้ม โดยรับประทานข้าวสวยเป็นหลัก ลักษณะอาหาร 
ที่รับประทานมักผสมผสานระหว่างภาคต่าง ๆ เช่น แกงไตปลา ปลาร้า น้ำพริกอ่อง

                  ประเพณี อุ้มพระดำน้ำ
ความสำคัญ
ประเพณีอุ้มพระดำน้ำเป็นประเพณีที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย เกิดจากความเชื่อเกี่ยวกับอภินิหารของพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองคือพระพุทธมหาธรรมราชา ซึ่งคนหาปลาสองสามีภรรยาทอดแหได้ที่วังเกาะระสารในบริเวณลุ่มน้ำป่าสักในเขตตัวเมืองเพชรบูรณ์ จึงนำไปไว้ที่วัดไตรภูมิ เมื่อถึงเทศกาลสารทพระพุทธรูปองค์นี้จะหายไปและชาวบ้านจะพบมาเล่นน้ำที่บริเวณที่ค้นพบเดิม ดังนั้นในเทศกาลทำบุญสารทหลังจากทำบุญเสร็จแล้วจะมีพิธีอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาลงริ้วขบวนเรือไปสรงน้ำที่วังเกาะระสาร แต่ปัจจุบันนำมาทำพิธีที่ท่าน้ำของวัดโบสถ์ชนะมารในวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐
ความเชื่อ
ชาวบ้านเชื่อว่าถ้าทำพิธีอุ้มพระดำน้ำแล้วจะทำให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล


ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ

4 ความคิดเห็น: